ร้านผ.ผึ้งทำรัง ต้องแวะชิมสักครั้ง
สำหรับใครที่ชอบรับประทานอาหารประเภทสเต็ก ต้องฟังทางนี้ เพราะว่าเราจะมาแนะนำร้านที่มีชื่อว่า ร้านผ.ผึ้งทำรังโดยทางร้านจะขายสเต็กที่ทำเอง หรือเรียกอีกอย่างว่า สเต็กแบบโฮมเมด และจะใช้ผักแบบปลอดสารพิษ รวมถึงวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ทำให้คนที่เข้ามารับประทานรู้สึกไร้กังวลรวมถึงได้รับความอร่อยจากเมนูอาหารได้อย่างเต็มที่ โดยทางร้าน ยังมีเค้ก,น้ำผลไม้ และ กาแฟ ไว้คอยบริการอีกด้วย
สำหรับร้านจะถูกตกแต่งแบบสไตล์วินเทจ ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนนั่งรับประทานอาหารอยู่หน้าบ้าน โดยตัวร้านจะค่อนข้างมีพื้นที่กว้างอยู่พอสมควร และจะให้ความรู้สึกเหมือนนั่งอยู่ในสวนหย่อมเล็กๆด้วย เพราะว่ารอบๆร้านจะมีต้นไม้ประดับอยู่ ในส่วนของหน้าร้าน ก็มีมุมให้ได้ถ่ายรูปเก็บเป็นที่ระลึก หรือว่าจะ ถ่ายลงโซเชี่ยลก็ได้เหมือนกัน และทางร้านก็ยังมี wifi ให้คนที่มารับประทานอาหารที่ร้าน ได้ใช้แบบฟรีๆ อีกด้วย
โดยเมนูของทางร้าน จะมีทั้งสเต็กสันคอหมู,สเต็กปลาแซลมอน,สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า,ผักโขมอบชีส, สเต็กไก่,สเต็กเนื้อ,หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์อบชีส และยังมีของกินเล่น อย่างไส้กรอก, มันบด,เฟรนช์ฟรายด์,ขนมปังเนยกระเทียม หรือถ้าเกิดใครอยากรับประทานซุป ทางร้านก็มี ซุปข้าวโพด กับซุปเห็ดหอม ด้วยเช่นเดียวกัน เรื่องของราคาก็ไม่ได้แพงมากจนเกินไปสามารถจับต้องได้ อยู่ที่ประมาณ 40-300 บาท นั่นเอง
บรรยากาศในร้านมีความเป็นกันเองมากๆ โดย เจ้าของร้าน อย่าง คุณหนึ่ง ก็ยิ้มแย้มแจ่มใส และอัธยาศัยดี มีความเป็นกันเองสุดๆ เพื่อรอต้อนรับลูกค้าที่จะมารับประทานอาหารที่ร้านของตัวเองอยู่เสมอ มาพูดถึงเรื่องของปริมาณของอาหารในร้านกันบ้าง คนที่เคยแวะไปร้านนี้มาแล้ว บอกว่า ร้านให้เนื้อปลาแซลมอนมาชิ้นใหญ่จริงๆ รับประทานคนเดียวเกือบจะไม่หมด ถึงขั้นอาจจะต้องแบ่งกินสองคนเลย ส่วนผักสลัดที่เสิร์ฟคู่มากับเนื้อ สเต็กต่างๆ ก็ให้มาแบบเต็มจานเลยทีเดียว ทางร้านไม่งงผัก เพราะอยากให้ลูกค้ามารับประทานที่นี่แล้วได้ความอิ่มกลับไป ไม่ใช่แค่ถ่ายรูปสวยเพียงเท่านั้น
ร้านผ.ผึ้งทำรัง เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา11โมง ไปจนถึงสามทุ่ม ใครที่สะดวกเวลาไหน ก็สามารถแวะเข้ารับมารับประทานสเต็ก ตามช่วงเวลาที่ทางร้านได้แจ้งไว้ได้ หรือว่าจะติดต่อสอบถามให้แน่ใจก่อนก็ได้เหมือนกันว่า ร้านอยู่แถวไหน สำหรับคนที่ขับรถยนต์ส่วนตัวมาเอง เพียงโทรไปที่เบอร์ 095 918 9536 เพื่อทำให้ตอนที่เราขับรถไปยังร้านอาหารเราจะได้ไม่หลงทาง นั่นเอง